ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็ปไซต์ถูกเก็บในรูปแบบของคุกกี้ กรุณา
รับทราบ
และอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
Support@mail.com
+01 1800 453 7678
Login
Sign Up
Toggle navigation
MainPage
Lanna Architecture Center
History
Object and Goals
The architecture of Khum Jao Burirat Maha In
Building Restoration
Virtual Museum
Award
Team
Dig 01
Data Center of Lanna Architecture
Lanna Architecture center
Research
Book
Exhibition
Salarr Information
Contact Us
Khum Museum E-Magazine
Issue 01
TH
|
EN
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
ประวัติ
เรือนพญาวงศ์ เป็นชื่อที่ได้มาจากเจ้าของเรือนคือ พญาวงศ์ นายแคว่นหรือกำนันแห่งบ้านสบทา แขวงปากบ่อง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เรือนหลังนี้ปลูกสร้างโดยลูกเขยของพญาวงศ์ ชื่อว่า พญาอุด ซึ่งเป็นนายแคว่นบ้านริมปิง ได้สร้างเรือนหลังนี้ให้กับพญาวงศ์เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2440 เมื่อพญาวงศ์เสียชีวิตลงก็ไม่มีผู้สืบทอดหรืออาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อ จนกระทั่ง พระครูเวฬุวันพิทักษ์ (เขื่อนคำ อตฺตสนฺโต) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้าและเจ้าคณะอำเภอป่าซางในขณะนั้น ได้พบเห็น จึงได้ติดต่อขอซื้อเรือนแล้วทำการรื้อย้ายมาปลูกสร้างไว้ที่วัดสุวรรณวิหาร บ้านแม่อาว ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งท่านก็เป็นเจ้าอาวาสของวัดนี้ด้วยอีกแห่งหนึ่ง จากนั้น นายแฮรี่ วอง ชาวสิงค์โปร์ได้ซื้อไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2541 มูลนิธิ ดร.วินิจ–คุณหญิงพรรณี วินิจนัยภาค ได้สนับสนุนการรื้อถอนและมอบเรือนหลังนี้ให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พัฒนาการ
เดิมทีช่างได้สร้างเรือนพญาวงศ์ด้วยวิธีการเข้าลิ่มตอกสลักอย่างดีแทบไม่ปรากฏรอยตะปู อันเป็นความสามารถเชิงช่างในอดีต แต่ปัจจุบันผลจากการรื้อย้ายและการซ่อมแซมทำให้ปรากฏรอยตะปูให้เห็นบ้าง ยกเว้นบางส่วนที่ยังคงสภาพดี จากรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือนพญาวงศ์ จึงถือได้ว่าเป็นตัวอย่างของเรือนกาแลล้านนาที่สมบูรณ์หลังหนึ่ง ที่ควรค่าแก่การศึกษาทั้งในด้านเทคนิคการสร้างและพื้นที่ใช้สอยภายในเรือน
ข้อมูลทางสถาปัตยกรรม
เรือนพญาวงศ์ เป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูงมุงด้วย “ดินขอ” หลังคาทรงจั่วแฝด หรือ “สองหลังร่วมพื้น” ยอดจั่วมี “กาแล” เป็นไม้แกะสลักยื่นเลยจากป้านลมวางไขว้กันอยู่ จึงทำให้มีชื่อเรียกว่า “เรือนกาแล” ซึ่งเป็นเรือนล้านนาดั้งเดิมที่นิยมทำในช่วงประมาณ 100 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ฝาเรือนพญาวงศ์ก็เป็นแบบล้านนาโบราณที่ทำเป็นฝาผายออกเพื่อรองรับน้ำหนักโครงสร้างหลังคาที่ป้านและลาดต่ำ ลักษณะการแบ่งพื้นที่ใช้สอยประกอบด้วย 4 ส่วน คือ “ชาน” อยู่ด้านหน้าของเรือนพร้อมบันไดทางขึ้น เป็นส่วนที่เปิดโล่งไม่มีหลังคาคลุม มีขนาดพื้นที่ 1 ใน 3 ของตัวเรือนทั้งหมด ถัดจากชานเป็น “เฮือนนอน” มีอยู่ 2 หลังคู่กัน โดยเรือนด้านตะวันออกจะมีขนาดใหญ่กว่าเรือนด้านตะวันตกเล็กน้อย เพราะความเชื่อของชาวล้านนาจะไม่สร้างจั่วเรือนให้มีขนาดเท่ากัน ดังนั้นเจ้าของเรือนจึงอาศัยอยู่ในเรือนใหญ่ ส่วนเรือนเล็กก็มักจะจัดให้เป็นห้องของลูกสาวที่แต่งงานแล้ว เหนือประตูห้องนอนมี “หัมยนต์” ติดอยู่ ด้านหน้าเรือนนอนทั้งสองคือ “เติ๋น” ทำเป็นพื้นที่เปิดโล่งให้เชื่อมต่อกับชาน แต่ยกพื้นขึ้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ตรงกลางระหว่างเรือนแฝดมีทางเดินเชื่อมไปยังด้านหลังเรือน ซึ่งมี “เฮือนไฟ” เป็นเรือนขนาดเล็กวางแนวขวาง ทำด้วยฝาไม่ไผ่สานขัดกัน และมีบันไดทางขึ้นต่อจากชานหลังเรือน
ที่มาข้อมูล : เว็บไซต์พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา https://art-culture.cmu.ac.th
หุ่นจำลอง แบบที่ 1
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
หุ่นจำลอง แบบที่ 2
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
หุ่นจำลอง แบบที่ 3
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
Vernadoc แบบที่ 1
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
Vernadoc แบบที่ 2
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
Vernadoc แบบที่ 3
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
Vernadoc แบบที่ 4
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
Vernadoc แบบที่ 5
เรือนกาแล (พญาวงศ์)
ภาพถ่าย
เรือนกาแล (พญาวงศ์)